ซีอีโอร่วม CD Projekt ยอมรับผิด เน้นเส้นตายวันขายเกมมากเกินไป จนละเลยคุณภาพ

คณะผู้บริหารของ CD Projekt นำโดย Adam Kicinski ซีอีโอร่วม จัดแถลงข่าวต่อนักลงทุน อธิบายสถานการณ์ของเกม Cyberpunk 2077 ที่ประสบปัญหามากมายในช่วงเปิดตัว โดยเฉพาะบนคอนโซลเจนเก่า PS4 และ Xbox One

Kicinski ยอมรับว่าสถานการณ์ช่วงก่อนหน้านี้ที่เกมดีเลย์ถึง 3 รอบ ทำให้ผู้บริหารต้องโฟกัสกับการเข็นเกมออกมาขายให้ได้ และมองข้ามความร้ายแรงของปัญหาเรื่องคุณภาพเกม โดยเฉพาะบนคอนโซลเจนเก่าที่ต้องใช้เวลาแก้ไขอีกมาก เขายอมรับว่าเป็นการประเมินสถานการณ์ที่ผิดพลาด และเป็นการทำลายชื่อเสียงของบริษัทที่สั่งสมมานาน

นอกจากนี้ Kicinski ยังยอมรับว่าช่วงก่อนเกมวางขาย CD Projekt โชว์ภาพของเกมเฉพาะเวอร์ชันพีซีเท่านั้น ทำให้ความคาดหวังของแฟนๆ บนคอนโซลเจนเก่า มองว่าคุณภาพของเกมบน PS4/Xbox One ควรใกล้เคียงกับพีซี

Kiciniski บอกว่า CD Projekt จะทุ่มกำลังมาแก้ปญหาเกมบนคอนโซลจนเก่า โดยออกแพตช์แก้มาแล้ว 1 ตัว และจะออกแพตช์ที่ 2 ภายใน 7 วัน ส่วนแพตช์ใหญ่จะตามมาในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ตามที่เคยประกาศไว้

ประเด็นคำถามที่น่าสนใจจากนักลงทุนคือ โซนี่และไมโครซอฟท์ปล่อยให้ Cyberpunk 2077 เวอร์ชัน PS4 และ Xbox One ออกมาขายแบบไม่สมบูรณ์ได้อย่างไร คำตอบของ CD Projekt คือโซนี่และไมโครซอฟท์ทดสอบเกม เจอบั๊ก แต่มั่นใจว่า CD Projekt จะแก้บั๊กได้ทันก่อนเกมวางขาย ซึ่ง CD Projekt ทำไม่สำเร็จเอง

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ CD Projekt ยืนยันว่าเกมเวอร์ชันคอนโซลทั้งหมด (PS5/Xbox Series vs PS4/Xbox One) เป็นเกมที่ถูกออกแบบมารันบนคอนโซลเจนก่อน นับเป็น SKU เดียวกัน (คอนโซลมี 2 SKU คือ PlayStation กับ Xbox) โดยการนำเกมมาเล่นบนคอนโซลเจนใหม่ (PS5/Xbox Series) ย่อมได้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่มากขึ้น (และทีมงานตั้งใจเก็บบั๊กมากกว่า) แต่ CD Projekt ยังมีเกมเวอร์ชันคอนโซลเจนใหม่ที่แยกพัฒนาต่างหาก แต่ต้องรอจนถึงปีหน้าถึงจะอัพเดตให้เล่นกัน

CD Projekt ยังเปิดเผยสัดส่วนยอดขายของเกมพรีออเดอร์ 8 ล้านชุด ว่ามาจากพีซี 59% และคอนโซล 41%